Latest Entries »

"ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงไม่ลืมเธอ  มีเธอในใจฉันเสมอไม่เข้าใจ
อยากกอดเธอเอาไว้ สักเท่าไร  แต่หัวใจ ฉันก็รู้ดี

จูบเธอได้ในฝัน เท่านี้ แค่นี้ …เพียงข้างในใจ

รักไม่ได้ บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไหร่ก็ต้องหยุดไว้เอง

เป็นบททดสอบของเบื้องบน ให้ค้นหาหัวใจ
ส่งมาให้ตัวฉันข้ามไป อยากจะลองใจฉันหรือเปล่า
จะได้รู้ว่ารัก ลึกแค่ไหน ให้เห็นเงา สะท้อนหัวใจ
เก็บเธอไว้แค่ฝัน ได้ไหม เพราะหัวใจฉันก็เสียดาย

รักไม่ได้ บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว
รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง ….ชอบเขาเท่าไหร่ก็ต้องหยุดไว้เอง "

                   รักไม่ได้ / Artist : Groove Rider

 เวลาที่ผ่านไปปีกว่า…ไม่นาน ก็ดูเหมือนนาน…
ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพียงเพราะแค่ได้คุยกับ…คนบางคน
คนบางคน…ที่เคยทำให้จิตใจฉัน ว้าวุ่น หวั่นไหว สับสน วกวน 
บางครั้งก็เคยลืมไป แต่บางครั้งก็แว๊บๆเข้ามา…อีกแล้ว
 
เขาเองก็ไม่ใช่คนเฟอร์เฟคอะไร พื้นๆ ธรรมดาๆ 
กล้า บ้าบิ่น โลกส่วนตัวสูง และไม่เคยพูดจากับฉันดีๆเลย
 
เขาไม่รู้หรอก…ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง  แมร่งเอย…มานจะเคยรู้อะไรบ้างมั้ย?  – * –
ว่าเหตุผลอะไร ที่ทำให้หน้าเขามันยังตามหลอกหลอนอยู่จนวันนี้?!?
เขาจะไม่เคยมองเห็นฉันในสายตา…
วันนี้ ระหว่างเรา…ก็เหลือแค่ฐานะ "คนเคยๆรู้จักกัน"
 
ล่าสุด เขาบอกกับฉันว่า…ที่เราเจอกันไม่ได้
เพราะผู้หญิงอย่างฉัน เวลาคุยด้วยแล้วหงุดหงิดชิบหาย – -*
ไม่รู้จะดีใจดีมั้ยที่ได้คุยกันอีกครั้ง…
บางทีลึกๆก้ออยากจะบอกมานไปดังๆว่า พูดจากะกรูดีๆหน่อยสิว่ะ…แสสสส!!
เฮ้อ…ฉันมันก้อน่าหงุดหงิดแบบนี้อ่ะ เดิมๆ
ก็เหมือนกับเธอยังตีกรอบตัวเอง…แบบเดิมเช่นกัน
 
ทำงานเหนื่อย ร่างกายป่วย จิตใจเปื่อย – -* เออ เอาเข้าไป ชีวิตกรู
 
ไม่ว่ายังไง…เธอก็จะไม่มีวันหันมา
ถ้าเราจะรักกัน ก็เป็นได้แค่เรื่องตลก-ไร้สาระ
ที่จะไม่มีวันเป็นไปได้  มันก็เท่านั้นเอง…
 
เบนซ์ vs เบนซ์ (คนที่ชื่อเหมือนกันอีกคน…ที่มานไม่เคยใช้ชื่อนี้เลย)
 
บร๊าๆๆๆ…ทั้งคู่! – * – ชิชิ
 
ไปนอนดีก่ะ…..
 
00.57 น.  11/6/2008
 
BeNZe…
 
 
 
Desperado, why don’t you come to your senses?
คนสิ้นยั้งคิด ทำไมไม่คืนความสู่ความสำนึกของตัวเองบ้าง
You’ve been out riding fences for so long now.
เธอออกไปฟันฝ่ากับอุปสรรคนอกบ้านมานานพอแล้ว
Oh, you’re a hard one, but I know that you’ve got your reasons
คุณก็เป็นแคคนหัวแข็ง  แต่ฉันก็รู้ว่าคุณมีเหตุผลของตัวเอง
Th
ese things that are pleasing you
เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำให้เธอพึงพอใจนั้น   
Can hurt you some how
มันก็อาจจะทำร้ายเธอได้ม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม
 
 
Don’t you draw the queen of diamonds, boy,
คุณไม่ได้จั่วไพ่ควีน  ข้าวหลามตัดหรือ หนุ่มน้อย 
She’ll beat you if she’s able
เธอจะปราบคุณได้นะ ถ้าเธอทำได้
Yo
u know the queen of hearts was always your best bet
 คุณก็รู้ว่าไพ่ ควีนโพธิ์แดงนั้น คือตัวเดิมพันที่เยี่ยมที่สุด        
Now it seems to me some fine things have been laid upon your table
ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนว่าบางสิ่งที่ดี มันก็ได้ถูกวางไว้แล้วต่อหน้าเธอ
But you only want the ones that you can’t get,
แต่คุณต้องการในสิ่งที่คุณไม่สามารถมองได้เท่านั้นแหละ
 
Desperado
คนท้อแท้สิ่งหวัง
Oh you ain’t getting no younger
ไม่ใช่ว่าคุณจะเด็กลงได้กว่านี้อีกนะ    
Your pain and your hunger, they’re driving you home
ความเจ็บปวดและความหิวโหย มันจะช่วยขับไสให้คุณคืนกลับมาบ้าน
And freedom, oh freedom, that’s just some people talking
อิสรภาพ โอ อิสระเสรี ก็แค่เป็นอะไร ที่ใครบางคนพูดกันมา
Your prison is walking through this world all alone
แต่คุณก็คือนักโทษที่เดินท่องโลกใบนี้อย่างเดียวดาย
Don’t your feet get cold in the winter time?
เท้าของคุณไม่เย็นเยือกในช่วงฤดูหนาว    
The sky won’t snow and the sun won’t shine
ที่ท้องฟ้าจะไม่โปรยหิมะ และตะวันก็ไม่ฉายแสง

It’s hard to tell the nighttime from the day

มันยากที่จะแยกว่าเป็นค่ำคืนหรือกลางวัน
You’re losing all your highs and lows
เธอกำลังสูญเสียทั้งความสูงส่งและต่ำต้อย
Ain’t it funny how the feeling goes away?
มันไม่ตลกหรือกับความรู้สึกที่หมดสิ้นไป
 
Desperado
คนดื้อ ผู้สิ้งหวัง
W
hy don’t you come to your senses?
ทำไมไม่ฟื้นความรู้สึกลึกๆ ของเธอเอง
Come down from your fences, open the gate.
ลงมาจากกำแพงกั้นขวางนั่นเสียเถิด เปิดประตูออกกว้าง
It may be raining, but there’s a rainbow above you
มันอาจจะมีสายฝนกระหน่ำบ้าง แต่มันก็จะมีสายรุ้งอยู่เหนือเธอเช่นกัน
You better let somebody love you
เธอน่ายอมให้ใครสักคนรักเธอนะ
You better let somebody love you,
เธอควรให้ใครสักคนได้รักเธอ
Before it’s too late. 
ก่อนที่มันจะสายเกินไป…
 
                                     From "Desparado" / the Eagles
 
 
 

วันนี้นั่งฟังเพลงที่ไม่ได้ฟังมานานแสนนาน

Desparado ของ the Eagles วงโปรด

เล่นมันซ้ำๆอยู่เป็นสิบๆรอบ แล้วถอนหายใจ

ในเมื่อมันไม่ต่างจากชีวิตเราตอนนี้เอาเสียเลย

 

18.00 น. ได้เวลาเลิกงาน

ฝนก็ทำท่าว่าจะตก รีบอกจากบริษัทเพื่อเดินทางกลับบ้าน

ที่สถานีรถไฟใต้ดิน มีคนเยอะมากกว่าทุกวัน (ไม่รู้ทำไม)

คนเยอะจนกระทั่งรถไฟรับคนขึ้นไปอีกไม่ได้สักคน ต้องรอขบวนถัดไป

เฮ้อ…จนวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนเป็นแสนเป็นล้าน ต้องมาอัดๆกันอยู่ในกรุงเทพฯด้วยนะ?

 

ท้องฟ้าเดือนพฤษภาคม สีเปลี่ยนไป

บางครั้งก็ดูราวกับว่า ก้อนเมฆมันอยู่สูง…สูงขึ้นไปอีก

ฟ้าสูง…ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับกิเลสของคน ที่มีไม่สิ้นสุดเช่นกัน

2 เดือนที่ผ่านมาได้พบว่า การที่เรามีคนบางคนอยู่ข้างกาย …

ไม่ได้ทำให้เรามีความสุข อย่างที่เราเข้าใจ

มันก็เป็นแค่ความเหงาชั่ววูบ…มือที่สัมผัสก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอบอุ่นเลยสักนิด

นั่นเป็นเพราะว่า เราไม่ได้รักกัน เราแค่เดินผ่านมา ทักทายกัน

และเราต่างก็กำลังจะเดินจากกันไป…โดยไม่หวนกลับมาอีกเลย

กลับมาใช้เวลาอยู่กับตัวเองอีกครั้ง นั่งทบทวนถึงสิ่งที่ทำลงไป และคิดได้ว่า

อยู่คนเดียวแบบนี้…มันก็ดีอยู่แล้ว

 

*นี่คืออารมณ์ของเพลง Desparado ในแบบของฉันเอง

 

Benz 02.33 a.m.

29 March 2008

 
 
 

 

หลังจากที่ปล่อยชีวิตลอยตามน้ำมาเรื่อยเปื่อย..

เลิกหวังในตัวใครจริงๆแล้ว…ชีวิต

ตัวเรายังเอาแน่เอานอนอะไรก้อไม่ได้…

แล้วจะไปหวังอะไรนักหนากับคนอื่น

 **********

ช่วงนี้ รู้สึกว่าตัวเอง open mind มากเกินไปหน่อยแระ

ไม่ดีเลย…ยิ่งเป็นผู้หญิง ก้อยิ่งไม่ดี…

บางครั้ง…คนเราก้อต้องการใครสักคน

ที่เอาไว้คุยเวลาเหนื่อยๆใจ

 

ไม่ต้องมาเป็นแฟน…แค่คนที่คุยกันได้รู้เรื่อง

 

28วันผ่านไป … มีฝนตกลงมาพอให้ชุ่มฉ่ำ

แต่บางครั้ง…ฝนก้อตกมากเกินไป

จนทำให้รู้สึกอึดอัด…ไปไหนก้อลำบากใจ

"อยากให้ฝนหยุดตกจังเลย…"

 

นี่ละน๊า…ความไม่พอดีของคน

 

"ความสัมพันธ์ที่เปิดตัวเอง…มันก้อดี แต่บางครั้งมันก้อเป็นดาบสองคม"

หัวใจไม่ผิด…หากไม่คิดปิดกั้นตัวเอง

แต่บางครั้งเราก็ต้องพอดี…

พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น

หากสบายใจที่จะคุยกับใครก้อคุย

แต่ที่สำคัญ…ต้องไม่ลืมตัวเอง

เตือนตัวเองไว้…

"อย่าปล่อยใจล่องลอย…ไปรักใครอีก"

 

Benz 14 May 2008

12.35 a.m.

ตั้งแต่ใช้ชีวิตมาอายุ 25 ปี ผ่านอะไรต่ออะไรมาก็เยอะ จนวันนี้อยู่ๆก็นึกถามตัวเองว่า
เราเกิดมาเพพื่ออะไร?? เป้าหมายในชีวิตคืออะไร?
ทำไมเรารู้สึกเหมือนกับว่า…เราแค่เกิดมา มีชีวิตอยู่ไปวันๆก็เท่านั้น
ทุกๆวันตื่นขึ้นมา เรียนจบมาก็ไปทำงาน งานๆๆๆๆ…ที่ทำไปโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบหรือเปล่า
ไม่เหนื่อยหรอกนะ…แต่ว่าเบื่อ เบื่อสังคมกรุงเทพฯ อยากกลับบ้านจังเลย…
 
เพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัดบางคน…บอกว่าดีจังอยู่กรุงเทพฯ อยากมาอยู่บ้างจัง
เราอยู่มา6-7ปี ยังไม่รู้สึกเลยว่า ที่นี่มันน่าอยู่ตรงไหน
เมืองเล็กๆคับแคบ ที่ใครๆต่างก็พากันแห่มาอยู่แต่ที่นี่ จนแออัดไปหมด
เมืองเล็กๆที่ไม่เคยมีอากาศบริสุทธิ์ให้เราได้สูดลมหายใจได้อย่างเต็มๆปอดสักครั้ง
เมืองเล็กๆที่ความเจริญพัฒนา และเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เมืองมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่จิตใจของคนที่นี่ มันไม่ได้เจริญขึ้นเหมือนที่เมืองนี้เป็นเลย
หากมีแต่ กำลังสวนทางกันโดยสิ้นเชิง…
 
ตอนที่สอบตัวสุดท้ายเสร็จ ก็บอกแม่ว่า อยากกลับบ้าน
แม่บอกว่าไม่ให้กลับ อยู่ที่นี่หางานทำ หาประสบการณ์ไปก่อน
เราก็บอกว่า หางานทำที่บ้านก็ได้ แต่แม่บอกว่า อยู่บ้านมันไม่ก้าวหน้า- * –
เราก็สงสัยนะ…ว่าความเจริญกับความก้าวหน้าในชีวิต มันเลือกพื้นที่ด้วยหรอวะ
จริงอยู่ ที่บ้านอาจมีทางเลือกน้อยกว่าแต่เราคิดว่า มันคงจะมีความสุขมากกว่านี้
 
เราอยู่กรุงเทพฯมานานแต่เรารู้อยู่เสมอว่าเรามาจากที่ไหน
เราไม่เคยลืมว่าเราเป็นใคร?…
 
ชีวิตแย่ๆที่เราต้องเจอคนแย่ๆมาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เราถามว่าที่นี่เคยให้อะไรเราไหม
ที่นี่ให้การศึกษากับเรา ให้คำว่าบัณฑิตกับเรา แต่ที่นี่ ไม่เคยมีคนจิตใจดีสำหรับเราเลย
พระเจ้าอาจจะไม่เข้าข้างให้เราเจอคนที่ดีๆละมั้ง เราถึงเป็นแบบนี้
 
เจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า … เจอแต่เรื่องร้ายๆเดิมๆ เหมือนมันไม่เคยจบ
คนบางคน…ทำให้เราเชื่อที่สุด ว่าเขาเป็นคนดี แต่เพียงข้ามคืน ความดีนั้นก็จางหายไปเหมือนหมอกในยามเช้า
คนบางคน…อยู่ต่อหน้าเราเป็นอีกแบบ อยู่ลับหลังเราเป็นอีกแบบ ทำไมวะ
คนบางคน…คนที่เรารู้สึกศรัทธาในตัวเขาที่สุด แต่ไม่นาน เขาเองก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ
ไม่อยากร้องไห้ อยากจะหัวเราะสมน้ำหน้าตัวเองมากกว่าแต่ก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน
 
เรื่องเศร้าๆที่น่าตลกเรื่องเดิม…อาจจะจบลงในไม่ช้านี้
 
Benz  7/4/51
 
 
 
เริ่มต้นปีใหม่–หัวใจที่กะปรี้กะเปร่าทุกวัน…
แต่ไหงพอผ่านไปแค่เดือนเศษ…ความรู้สึกนั้นกลับแห้งผากจนไม่น่าเชื่อ
มันเร็วเหลือเกิน…ทุกอย่างเริ่มต้นและจบลงราวกับฝันไป!!
 
สิ้นเดือนนี้…จะเรียนจบแล้ว
ปี6–6ปีที่อดทนเรียนอย่างยากเย็นในรั้วมหา’ลัย กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
ความรักของฉัน…ก็สิ้นสุดลงพร้อมๆกับภาระการเรียน…
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกนะ
ในเมื่อตอนนี้ฉันก็ยังอยู่ได้…ยังหายใจได้
แค่ไม่มีเขา…ฉันต้องไม่ตาย…เรื่องแค่นี้เอง
 
แต่มันรู้สึกเซ็งๆชีวิต…ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ชีวิตฉันวกวน…วนเวียนแต่กับคนสันดานเดิมๆ
ไม่ว่าฉันจะหยุดพักหัวใจไปนานเท่าไร…เมื่อกลับมามีความรักอีกครั้ง มันก็ไม่เคยมีอะไร…ที่แตกต่างกันเลย
 
บทเรียนครั้งแล้วครั้งเล่า…มันได้สั่งสอนฉันซ้ำๆว่า
ความหลอกลวงและความจอมปลอม….มักแฝงมาในภาพของความซื่อสัตย์เสมอ
 
ร้องไห้ไปแล้ว…ร้องไปตั้งเยอะแล้ว 14วัน ติดๆกัน ก็ดูเหมือนว่าน้ำตามันไม่แห้งสักที
แต่อยู่ดีๆ…วันนี้ก็หยุดร้อง…เมื่อนึกถามใจตัวเองว่า
ร้องแล้วเขากลับมามั้ย?
คำตอบมันก็คือไม่…
ในเมื่อคำว่า "ไม่รัก" มันไม่ต้องแปลความหมาย "ไม่รัก ก็คือ ไม่รัก"
มันก็เท่านั้นเอง…
ตัวของเรา…หัวใจของเรา…ความรักของเราที่ให้เขาไปทั้งหมด…เขายังไม่เห็นค่า
นับประสาอะไรกับแค่…น้ำตาของผู้หญิงคนหนึ่ง…ที่ไม่มีอะไรค่าในสายตาของเขา
 
เจ็บปวดไหม?…เจ็บ
ลืมได้ไหม??…ก็คงยัง
พวกผู้ชายไม่มีวันเข้าใจหรอกว่า…
ความรู้สึกของผู้หญิง…นั้นเปราะบางเพียงใด
 
สักวัน…เวลาจะพาฉันเดินไปข้างหน้า
เดินไปโดยลำพังด้วยตัวฉันเอง
ไม่จำเป็นต้องมีเขาอยู่ข้างๆอีกต่อไปแล้ว
ครั้งหนึ่ง…เขาเคยเปรียบเสมือนลมหายใจของฉัน
แต่เมื่อวันนี้ฉันไม่มีเขา…ลมหายใจฉันอาจติดขัด
แต่เขาก็ไม่ได้เป็นขาซ้ายของฉัน…ฉันยังคงเดินต่อไปได้
เดินได้…เดินไปเรื่อยๆ…ตามทางที่ฉันเลือกเอง
 
บทเรียนเดิมซ้ำๆอีกครั้ง…
และบทละครชีวิตน้ำเน่าเดิมๆที่เล่นอย่างไม่มีวันจบ
เหมือนหนังที่ฉายแล้วฟิล์มตกร่อง
มันจึงสะดุดซ้ำๆบทร้ายๆตรงนั้นให้เจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า
 
วันนี้…ตัวฉันเอง จะเป็นคนแก้ไขหนังม้วนนี้ให้จบลง
แม้มันอาจจะต้องจบลงอย่างปวดร้าว
แต่นั่นก็เป็นบทเรียนล้ำค่า…สำหรับฉัน-ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง
ไม่ว่าจะต้องจบยังไง เมื่อมันปิดฉากลง
ฉันต้องยิ้มและยอมรับผลในตอนจบนั้นด้วยความเต็มใจ
 
กลับมารัก…และเยียวยาหัวใจตัวเองให้ดี
เพราะชีวิตเป็นของฉัน…
ฉันกำหนดเอง…
 

"I think therefore I am…" 

 
 
 
เช้าวันที่ 12 พฤศจิกา ทุกสิ่งทุกอย่างก้อกลับสู่โหมดปกติ…
ปวดตัวนิดหน่อยจากการเดินทางกลับมากรุงเทพฯเมื่อคืน
เช้านี้…ถึงมันจะดูเหงาๆ ไม่เหมือนกับวันที่ผ่านๆมา
แต่อย่างน้อย…ก้อมีเรื่องดีๆ ได้รู้เกรดบางวิชา ดีใจมากๆฮึดขึ้นมาอีก*-*/
เข้าไปกระโดดดีใจกะอาจารย์ อาจารย์บอกว่า ไม่ต้องขอบคุณหรอก เธอทำของเธอเอง^^ 
มันทำให้รู้สึกว่า…เออ สมกับที่เหนื่อยและทนกับการเรียนที่โคตรหนักมาทั้งเทอม
คนปกติทั่วไปเค้าอาจไม่เหนื่อยเท่าชั้น นั่นอาจเป็นเพราะชั้นมีเวลาจำกัด 
6 ปีในรั้วมหา’ลัย สุดๆแล้วจริงๆ – -!
 
เดือนนี้เริ่มต้นฝึกงานแล้ว….
วันนี้ก้อลอยๆๆมาออฟฟิศ แล้วก้อลอยๆกลับเหมือนสติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว-*-แย่จัง
ใครบางคน…ทำให้ชั้นเกิดอาการเบลอๆ อีกแล้วที่เป็นแบบนี้ ไม่ชอบเลย
และอยู่ๆ เรื่องราวเดิมๆก้อแว๊บเข้ามา ให้เศร้าได้ซะยังงั้น ทั้งที่น่าจะลืมมันไปได้แล้วนา…
แต่ถึงที่สุดแล้ว ไม่ว่าทุกอย่างจะเป็นยังไง ชั้นบอกกับตัวเองว่าชั้นต้องอยู่ให้ได้
อยู่ให้ได้…โดยไม่มีเขา…อยู่ให้ได้ด้วยตัวเราเอง
เกิดมาคนเดียว…ตายก้อต้องตายคนเดียว ฉะนั้นอย่าไปหวังอะไรกับคนอื่นให้มันมากมายนักเลยว๊า
จริงอยู่ที่ความสุขที่สุดในชีวิตของคนๆนึง ก้อคือการได้มีคนรักที่รักเราด้วยหัวใจ
และอยู่เคียงข้างกันและกันจนลมหายใจสุดท้าย…
ใครที่ได้พบกับคู่แท้แบบนี้…ก้อถือว่าโชคดีไป*-*
นิยามรัก คู่แท้…อ่านทีไรน้ำตาจะไหลทุกที T^T(sensitive จัด)
 
ช่วงเย็นๆวันนี้ พี่ที่ออฟฟิศให้ช่วยงาน เลยพอมีอะไรวุ่นๆให้ทำจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
เลิกงาน นั่งทำตัวลอยๆอยู่บนรถไฟฟ้าขากลับ นึกถึงข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์ที่อ่านวันนี้
คนฆ่ากันตาย เพราะความรักความหึงหวง มีข่าวให้เห็นแทบทุกวัน
ไม่เข้าใจ…ว่าทำไม ทั้งที่เป็นคนรักกัน ถึงกล้าทำขนาดนั้น มันรุนแรงขนาดคุยกันไม่ได้ต้องกับต้องฆ่าเลยรึ??
ถ้าเป็นยังงั้น … เรามิต้องระแวงตัวอยู่ตลอดหรอกรึ ว่าคนข้างๆเรา…ที่บอกว่ารักเรานักหนา
วันหนึ่ง…เค้าอาจกลายเป็นคนอีกคนที่เราคาดไม่ถึงเป็นก้อได้>"<
 
เฮ้อ…ความรัก…ถ้ามีรักแล้วทำให้มีทุกข์
แล้วทำไม คนจึงต้องการความรักกันนักนะ?? แม้แต่ชั้นเองก้อไม่เข้าใจ
เพ้ออะไรฟะเนี่ย…หลายบรรทัดเลยวุ้ย – -* งง
เบลอๆ..ฝันๆ..แต่ยังคงต้องอยู่ให้ได้กับความเป็นจริง
Lucky…in my life!! Get Fight!!
 
Benz 14 Nov 2007 01.27 a.m.

 
 
 

 

(^_._^)/

หลังจากผ่านพ้นวันเกิดปีนี้แล้ว…ได้มานั่งทบทวนตัวเอง

1 ปี ที่ฉัน…พยายามตั้งใจเรียนให้เต็มที่ แม้จะช้ากว่าคนอื่น แต่ก้อรู้ว่าจบชัวร์ๆ

1 ปี ที่ฉัน…ไม่มีความรักให้กับใคร เพราะคนที่ฉัน(เคย)รักมาก มันได้ตายไปแล้วในตอนนี้! (ตายให้หนอนแดรกไปแร้ว..ฮึ่ม!)

1 ปี ที่ฉัน…ไม่คิดถึงใคร นอกจากหน้าพ่อกับแม่ และพี่ชาย

1 ปี ที่ฉัน…ต้องต่อสู้กับการเรียนหนักและอดทนสุดๆกับการใช้ชีวิตในมหา’ลัย (เฮือกสุดท้ายแล้ว..เอาว่ะ>"<!)

1 ปี ที่ฉัน…ทำงานพิเศษไปด้วย เรียนไปด้วย ถึงแม้มันจะแค่งานpart-time แต่มันก้อทำให้รู้จัก "ค่าของเงิน" มากขึ้นน่ะนะ

1 ปี ที่ฉัน…อยู่ได้ด้วยตัวเองจริงๆ หลังจากที่เคยเสมอคิดว่า เราคงมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน…หากไม่มีเขา

1 ปี ที่ฉัน…เลิกเชื่อคำพูดของผู้ชาย เพราะชีวิตฉันที่ผ่านมา ดวงมักจะสมพงษ์กับผู้ชาย hereๆ เสมอ-*-‘ (ทำไมว่ะ?)

1 ปี ที่ฉัน…มีความสุขสุดๆๆ..ที่ตัดไอ้บ้านั่น ออกไปจากใจได้สักที!!! ไอ้เวงเอยยย ชาตินี้อย่าได้พบเจอะเจอกานอีก(-/l-)สาธุ!

1 ปี ที่ฉัน…สามารถยิ้มให้กับชีวิตอิสระได้อย่างเต็มที่ โลกใบเล็กๆของฉัน อาจไม่ค่อยมีสีสัน แต่ก้อน่าอยู่ในแบบที่เป็นฉันเอง

1 ปี ที่ฉัน…เป็นผู้ใหญ่บ๊องส์ๆ ติ๊งต๊อง แต่ก้อกำลังเตรียมตัวเป็นผู้ใหญ่จริงๆในโลกความเป็นจริงวันข้างหน้า เย้ๆๆๆ*-*/

 

"เหนื่อยกาย…ไม่ได้แปลว่าทุกข์     สบาย…ไม่ได้แปลว่ามีความสุข

อะไร…ที่มันทำให้เธอนั้นทุกข์       ก็ลอง…ถามใจเธอก่อนตอนนี้…"

"มีความสุขหรือเปล่า?"

 

**********************************************

 

 

 

ในที่สุดวันนี้ก้อครบ 25 ขวบซ้าที

ปีนี้ไม่อยากพูดอะไรมากมาย…อยากบอกคนที่รักมากที่ที่สุดสั้นๆคือ

น้องเบนซ์รักป๊ะป๋า กะ มาม๊า มากที่ซู้ดดดดดดดดเรย!!!^_^/

วันนี้…ของปีที่แล้ว ฉันอยู่กับคนๆหนึ่ง

คนที่ทำให้เสียใจ…มาจนทุกวันนี้

แต่ก็ช่างมันเถอะ…ให้มันเป็นแค่เรื่องที่ผ่านมาแล้วผ่านไป

เธอกับฉัน…เราไม่เคยรู้จัก ไม่เคยรักกัน

จากวันนั้น…จนวันนี้ ฉันรู้ว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

และจะไม่ขอนึกถึงเธออีก…เธอคือเรื่องราวสีจางๆของวันวาน

จากนี้ไป … ฉันขอให้ชีวิตฉันพบเจอแต่เรื่องดีๆ

สุขสันต์วันเกิด ผู้ใหญ่บ๊องๆ 25 ปี

Happy Birthday to BenZe!!

5 October 2007  / 03.30 a.m.

 

 

 
ทำไมต้องคิดว่า…การกระทำอย่างนั้น
จะมีผลอะไรต่อชีวิตชั้นด้วย??
งง…และไม่เข้าใจ
คนบางคน…ชอบสำคัญตัวเอง
อย่าคิดว่าตัวเอง…สำคัญขนาดนั้น
เพราะเธอ…ไม่เคยมีผลอะไรกับชีวิตชั้นเลย !!
(เจอแบบนี้…เซ็งมาก)-*-